การรักษาผมร่วงผมบาง แก้ปัญหาผมบางในผู้หญิง
ทุกๆ วันโดยปกติผมจะร่วงประมาณไม่เกิน 100-120 เส้น ถ้าผมร่วงมากกว่านี้จะถือว่ามีผมร่วงมากกว่าปกติ สาเหตุของผมร่วงผมบางในผู้หญิงมีหลายประการ ดูรายละเอียดสาเหตุผมร่วง
ดังนั้นการรักษาผมร่วง แก้ปัญหาผมบางในผู้หญิง ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่นอนก่อน เนื่องจากผมร่วงอาจเป็นอาการแสดงเบื้องต้นของโรคบางโรคได้ การรักษาผมร่วงในผู้หญิงมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุ ไม่มีวิธีใดเพียงวิธีเดียวที่จะรักษาได้ทุกสาเหตุ การเลือกวิธีการรักษานอกจากจะขึ้นกับสาเหตุแล้วยังขึ้นกับ ความรุนแรงของภาวะผมร่วง และปัจจัยส่วนตัวของแต่ละบุคคล เช่น อายุและผลกระทบต่อบุคลิกภาพ ยิ่งเริ่มการรักษายิ่งเร็ว ผลที่ได้ก็จะยิ่งดี ผมจะกลับขึ้นมาได้เร็วกว่า การรักษาผมร่วงมีหลายวิธีดังนี้
การรักษาผมร่วงผมบางในผู้หญิง : ทางไทยแฮร์เซ็นเตอร์พบว่าผลของการรักษาในผู้หญิงจะดีกว่าการรักษาผมร่วงผมบางในผู้ชายมาก เพราะสาเหตุของผมร่วงในผู้หญิงเป็นเรื่องของพันธุกรรมน้อยกว่าในผู้ชาย และผู้หญิงมักจะใส่ใจในเรื่องความสวยงามมากกว่า เมื่อมารับการรักษาจึงมักจะพบว่ากระบวนการทำลายรากผมในผู้หญิงมักจะเป็นไม่มากมีรากผมที่ดีอยู่เป็นจำนวนมาก สภาพหนังศีรษะได้รับการทะนุบำรุงมาอย่างดีกว่า
- โลชั่นทาเฉพาะที่และครีม
- minoxidil lotion - ความเข้มข้นประมาณ 2% ใช้ในการรักษาภาวะผมร่วงในผู้หญิงจากกรรมพันธุ์ ใช้ทาบริเวณหนังศีรษะตำแหน่งที่มีผมร่วงวและบางวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ช่วยกระตุ้นการเกิดผมใหม่ของผม ได้ผลประมาณ 60% ของผู้ที่มีผมร่วงจากกรรมพันธุ์ จะเริ่มเห็นผลเมื่อใช้ต่อเนื่องกันไปประมาณ 4 เดือน และเมื่อหยุดใช้ผมที่ขึ้นใหม่ก็จะหลุดออกไปได้อีกตามปกติ - การใช้ยาต้านการอักเสบ
- การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ ทั้งชนิดกิน, ทา หรือฉีด ใช้ในการลดการอักเสบบริเวณรากผม ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่ใช้สารเคมีที่รุนแรงเกินไป - ยารับประทาน ฟิแนสเตอไรด์ (Finasteride)
- ในบางรายอาจจำเป็นต้องมีการใช้ยารับประทานร่วมด้วย เช่น ไมนอกซิดิล (minoxidil) ชนิดยาเม็ด, ยาฮอร์โมน เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน (estrogen/progesterone) , ไซโปรเทอโรน (cyproterone) , คีโตโคนาโซล (ketoconazole) , สไปโรโนเลคโตน (spironolatone), ไซเมททิดีน (cimetidine) , ซึ่งยารับประทาน หรือยาชนิดเม็ดนี้จะมีผลข้างเคียงค่อนข้างมากกว่ายาใช้เฉพาะที่ และส่วนใหญ่มีข้อห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงควรคุมกำเนิดให้ดี ในขณะที่ใช้ยาเหล่านี้ด้วย - วิตามินหรืออาหารเสริม
- วิตามินที่สำคัญมากๆ ได้แก่ วิตามิน B5, B3, B6, C, E ไบโอติน และกรดโฟลิก สามารถช่วยเสริมการรักษาให้ได้ผลดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีการขาดวิตามินเหล่านี้ร่วมด้วย - การหยุดหรือปรับเปลี่ยนยาที่มีผลทำให้เกิดผมร่วง
- มียาหลายชนิดที่อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้การปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยาในการรักษาโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง, ยาลดกรดยูริคในโรคเก๊าฑ์, ยาแก้ปวดลดการอักเสบข้อ อาจทำให้อาการผมร่วงดีขึ้นได้ ดูรายละเอียดยาที่ทำให้ผมร่วง - การใช้วิกผม
- เพื่อปกปิดบริเวณที่มีศีรษะล้าน โดยเฉพาะในผู้ที่มีผมร่วงที่เป็นชั่วคราวเช่น ในผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด - การศัลยกรรม
- มีเทคนิคทางศัลยกรรมหลายอย่างที่สามารถช่วยรักษาภาวะศีรษะล้านได้ แต่ส่วนใหญ่การรักษาด้วยวิธีการทางศัลยกรรมมักไม่ค่อยเหมาะในผู้หญิง ทั้งนี้เนื่องจากผมร่วงในผู้หญิงมักเป็นกระจายทั่วศีรษะมากกว่าที่จะเป็นเพียงหนึ่งหรือสองบริเวณ วิธีดังกล่าวคือการทำ ศัลยกรรมปลูกผม ซึ่งเป็นวิธีการนำเอารากผมจากบริเวณที่แข็งแรง ย้ายมายังบริเวณที่มีผมบางหรือศีรษะล้านวิธีนี้ได้ผลค่อนข้างดีมากทำให้ผมขึ้นได้ทันที และผลที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ อาจใช้ได้ในผู้หญิงที่มีผมร่วงแบบพันธุกรรม - วิธีอื่น ๆ
- เช่น การใช้แชมพูอ่อน และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับเส้นผม เนื่องจากการใช้สารเคมีบ่อย ๆ หรือการทำทรีทเมนต์อาจทำให้หนังศีรษะอักเสบและมีการหลุดร่วงของเส้นผมมากขึ้นได้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการทำผมที่ทำให้เกิดการดึงรั้งต่อหนังศีรษะ ทำให้เกิดผมร่วงจากการดึงรั้ง ซึ่งอาจทำให้เป็นผมร่วงชนิดถาวรได้