ปลูกผมเพื่อรักษา ผมบาง ศีรษะล้าน ด้วยศัลยกรรมปลูกผม สิ่งที่ต้องรู้
เมื่อพูดถึงเรื่อง ปลูกผม เรามักจะนึกถึงการปลูกผมด้วย ยาปลูกผม หรือ แชมพูปลูกผม หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้กับหนังศีรษะโดยตรงในรูปแบบของ สเปรย์ โลชั่น ยาพ่น ครีมบำรุง ครีมหมักผม ครีมนวดผม ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนแต่ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง มีการปลูกผม อีกวิธีหนึ่งคือ ศัลยกรรมปลูกผม ซึ่งปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผมและเทคนิควิธีที่ทำที่เรียกว่า Follicular Unit Transplantation ทำให้ผลการทำศัลยกรรมเป็นที่น่ายินดีสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติมาก ในประเทศไทยมีศัลยแพทย์ที่ทำศัลยกรรมปลูกผม แบบเป็นกิจลักษณะทำแต่ศัลยกรรมชนิดนี้เพียงอย่างเดียวมีน้อยมากนับคนได้ไม่เกิน 6 ท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่มาทำการปลูกผมจะเป็นชาวต่างประเทศทั้งจาก สหรัฐอเมริกาและจากทางยุโรป เพราะค่าใช้จ่ายในเมืองไทยนับว่าถูกมากและศัลยแพทย์ปลูกผมของไทยก็มีชื่อเสียงระดับโลกได้รับการยอมรับจากสมาคมศัลยแพทย์ปลูกผมระดับนานาชาติ (ISHRS - International Society of Hair Restoration Surgery) เช่น อาจารย์หมอดำเกิง ปฐมวาณิชย์ ซึ่งเป็นแพทย์ไทยมีประสบการณ์สูงมากในการทำศัลยกรรมปลูกผม ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณสูงสุดจากกลุ่มศัลยแพทย์ปลูกผมทั่วโลกเป็นรางวัล 2010 ISHRS Golden Follicle Award รางวัลอันทรงเกียรตินี้ไม่ได้มาง่ายๆและมอบให้ศัลยแพทย์ปลูกผมเพียงปีละ 1 ท่าน คัดเลือกศัลยแพทย์ปลูกผมมาจากทั่วโลกโดยดูจากผลงานการผ่าตัดที่ได้รับการยอมรับจากคนไข้ และเพื่อนแพทย์ด้วยกัน นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นที่จะแสดงให้เห็นว่าแพทย์ไทยเองมีความสามารถสูงมาก และค่าใช้จ่ายที่มาทำในเมืองไทยรวมกับค่าที่พักได้ท่องเที่ยวในเมืองไทยแล้วยังได้รับการทำศัลยกรรมปลูกผมอีกรวมแล้วยังคุ้ม ในเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ทำศัลยกรรมปลูกผมในประเทศตนเอง
ไทยแฮร์เซ็นเตอร์เองได้เริ่มให้ความสำคัญกับการทำศัลยกรรมปลูกผมมากขึ้นเพราะเห็นแล้วว่าผลการผ่าตัดดีมาก ถึงยุคที่ต้องมีการขยับขยายด้านเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่กับวิธีเดิมที่ใช้อยู่ แต่อย่างไรก็ตามวิธีเดิมที่เป็นมาตรฐานในการรักษาปัญหาผมร่วงผมบางยังคงต้องใช้ อยู่เพราะไม่ใช่ทุกรายที่มีปัญหาผมบางศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์จะสามารถแก้ปัญหาด้วยศัลยกรรมปลูกผมได้ทั้งหมดหรือแม้แต่กระทั่งผู้ที่ทำศัลยกรรมปลูกผมไปแล้ว บางรายก็ไม่สามารถหยุดยากินรักษาได้ สิ่งที่ควรรู้ที่กรั่นกรองมาให้ด้านล่างนี้ ผู้ที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรมปลูกผมควรศึกษาให้ดีหากมีข้อสงสัยประการใดสามารถสอบถามปรึกษาหรือรับการประเมินได้จากแพทย์ที่ไทยแฮร์เซ็นเตอร์
ศัลยกรรมปลูกผม ปลูกได้จริงเหรอ ใช้ผมจริงหรือเส้นผมสังเคราะห์
ศัลยกรรมปลูกผม ปลูกได้จริงๆ แต่ไม่ใช่ทุกรายที่จะทำวิธีนี้ได้ ผู้ที่จะสามารถทำการปลูกผม ด้วยศัลยกรรมได้ต้องมีผมที่ท้ายทอยหรือเหนือกกหูเป็นเส้นผมขนาดใหญ่และปริมาณความหนาแน่นต้องมากพอ (ในคนปกติจะมีรากผมประมาณ 50-80 รากต่อหนึ่งตารางเซ็นติเมตร ยิ่งมากกว่านี้ยิ่งดี) การปลูกผมวิธีนี้ใช้เส้นผมจริงของเจ้าตัวเท่านั้นไม่มีการใช้เส้นผมสังเคราะห์ หรือเส้นผมของผู้อื่นเหมือนการปลูกถ่ายอวัยวะชนิดอื่น หลังจากทำศัลยกรรมปลูกผมแล้ว เส้นผมสามารถขึ้นได้จริงและยาวได้ปกติอยู่กับเจ้าของไปตลอดเป็นการ ปลูกผมถาวรจริงๆ ที่น่ายินดีคือคนที่มีผมร่วงบางจากกรรมพันธุ์ รากผมบริเวณท้ายทอยและเหนือกกหูจะไม่ถูกทำลายด้วยอิทธิพลของฮอร์โมน DHT เพราะฉะนั้นเวลาย้ายเซลล์รากผมมาปลูกตำแหน่งที่ผมบางแล้วเส้นผมที่ขึ้นใหม่จะไม่กลับมาร่วงหรือมีเส้นเล็กลงอีก
ส่วนใหญ่การทำศัลยกรรมปลูกผมจะใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง ในการทำขึ้นอยู่กับว่าปริมาณเซลล์รากผมที่จะย้ายมาปลูกมีมากน้อยเพียงไร ทั่วๆไปการย้ายเซลล์รากผม 1000-2000 กร๊าฟท์ จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง (หนึ่งกร๊าฟท์=หนึ่งรากผมหรือหนึ่งกอผมซึ่งโดยเฉลี่ยจะมีเส้นผม 1-4 เส้น) การผ่าตัดไม่จัดว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ เทียบเท่ากับการไปถอนฟัน ไม่มีการดมยาสลบใช้เพียงการฉีดยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ระหว่างทำการปลูกผมคุณจะรู้สึกตัวตลอดเวลาแต่ไม่เจ็บเพราะมีฤทธิ์ยาชาอยู่ บางที่อาจจะให้กินยากล่อมประสาทแบบอ่อนๆ เพื่อไม่ให้เกิดความกลัวหรือระหว่างการทำจะมีการเปิดเพลงให้ฟังจะได้รู้สึกเคลิ้มและผ่อนคลาย ในต่างประเทศบางแห่งระหว่างการทำมีคนมาบรรเลงเปียโนให้ฟังถึงในห้องผ่าตัดเลยทีเดียว เรื่องความปลอดภัยนั้นจัดว่าปลอดภัยสูงมาก แต่เรื่องความสวยงามของการทำและอัตราการงอกของเส้นผมที่ทำการปลูกใหม่นั้นขึ้นอยู่กับ
- ฝีมือและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ปลูกผม
- ทีมผู้ช่วยแพทย์ ทั้งผู้ส่องกล้องหั่นเตรียมรากผม และผู้ที่นำรากผมมาปักปลูกภายใต้การกำกับดูแลของศัลยแพทย์อย่างใกล้ชิด
- เครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผม ต้องดีมากๆโดยเฉพาะกล้องขยายกำลังสูงที่ใช้ในการเตรียมกร๊าฟท์ และเครืองมือในการเจาะเพื่อสร้างรูขุมขนใหม่ (Implanter)
- พื้นที่ที่ผมบางจะต้องไม่ใหญ่เกินไป ถ้าใช้เกินกว่า 4000 กร๊าฟท์ ผลงานที่ออกมาจะไม่ค่อยดี
- การเตรียมตัวก่อนจะทำการปลูกผมควรหยุดยากระตุ้นรากผมทั้ง Minoxidil และ Finasteride อย่างน้อย 3 เดือน นอกจากนี้ยังควรหยุดยาทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ อาทิ แอสไพริน (Aspirin), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants), น้ำมันปลา (Fish Oil), เลซิทิน (Lecithin), กระเทียมเม็ด, วิตามิน E, วิตามิน A, หรือมียาที่กินอยู่ประจำชนิดอื่นต้องแจ้งแพทย์ก่อน
- เทคนิคที่ศัลยแพทย์ใช้ทำปัจจุบันในประเทศไทย เทคนิคแบบมีแผลผ่าตัด (FUT - Follicular Unit Transplantation) หลังทำจะสวยกว่าแบบไม่มีแผลผ่าตัด (FUE - Follicular Unit Extraction)
- การจัดเรียงกร๊าฟท์และออกแบบแนวผมที่จะปลูกซึ่งจะต้องพิจารณาและคุยกันก่อนระหว่างศัลยแพทย์และผู้ที่จะทำการปลูกผมว่าชอบแบบไหน
- การดูแลหลังผ่าตัดช่วงที่กลับบ้านแล้ว ต้องดูแลให้ดีโดยเฉพาะในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ต้องระมัดระวังบริเวณแผลที่ท้ายทอย และแผลที่นำรากผมมาปักปลูกให้ดี อัตราการงอกหรือการติดของกร๊าฟท์ขึ้นกับช่วงเวลานี้มากที่สุด
ถูกต้อง ผมที่ทำการย้ายมาปลูกในตำแหน่งใหม่ จะหลุดร่วงออกมาประมาณ 10-14 วันหลังผ่าตัด แต่ไม่ต้องตกใจ หลุดออกมาเฉพาะเส้นผม ส่วนรากผมในตำแหน่งที่ปลูกใหม่ยังคงอยู่และเส้นผมยังคงค่อยๆงอกออกมา จะงอกออกมามากขึ้นเรื่อยๆในช่วง 6-8 สัปดาห์ หลังผ่าตัดและจะงอกยาวออกมาเรื่อยๆ โดยเฉลี่ยการประเมินว่ารากผมในตำแหน่งที่ปลูกใหม่จะงอกออกมาหรือไม่จะต้องรอดูประมาณ 6-18 เดือนจึงจะบอกได้อย่างมั่นใจว่าการทำศัลยกรรมปลูกผมประสบความสำเร็จดีหรือไม่ และการจะปลูกผมซ้ำหรือแซมเสริมครั้งที่ 2 จะต้องรออย่างน้อย 6-18 เดือนหลังปลูกผมครั้งแรก
แต่จะมีคนไข้อีกกลุ่มหนึ่งที่ผมร่วงหลังผ่าตัดปลูกผมไม่ได้เกิดเฉพาะตำแหน่งที่ปลูกผมใหม่เท่านั้น ตำแหน่งแผลผ่าตัดที่ท้ายทอยก็ร่วงบางจนน่ากลัวบางคนเรียกว่า "Normal Post-operative Shock Loss" หรือการร่วงแบบรุนแรงจนน่ากลัวหลังผ่าตัดปลูกผมแต่เป็นภาวะปกติและเป็นชั่วคราว ผมใหม่จะค่อยๆกลับมาประมาณ 4 เดือนหลังผ่าตัด สาเหตุเชื่อว่ามีหลายปัจจัยส่งเสริมให้เส้นผมปกติที่อยู่ในระยะเติบโต (Growing phase or anagen stage) เข้าสู่ระยะพักตัว (Resting phase or Telogen stage) มากขึ้น เช่น ความเครียดกังวลว่าการปลูกผมจะออกมาไม่ดี, กินยาบางชนิดอยู่, ขาดวิตามินและพร่องโภชนาการ โดยเฉพาะในผู้หญิง, มีไข้สูงหลังผ่าตัด ฯลฯ อาการผมร่วงทั้งศีรษะ Shock Loss พบไม่บ่อยหลังทำศัลยกรรมปลูกผมและส่วนใหญ่กลับมาเป็นปกติได้เอง
หลังผ่าตัดแนะนำให้พักประมาณ 72 ชั่วโมงหรือ 3 วัน ในช่วงนี้อาจจะยังมีผ้าก๊อซปิดแผลบางๆ ที่ท้ายทอยและที่ศีรษะด้านหน้าที่ทำการปลูกเพื่อปกป้องรากผมหรือกร๊าฟท์ไม่ให้ได้รับการกระทบกระเทือนมากเพราะอาจจะทำให้กร๊าฟท์หลุดได้ หลังจากนั้นอีก 1-2 วันแผลจะเริ่มตกสะเก็ด คุณสามารถไปทำงานได้ปกติหลัง 3 วันไปแล้ว ส่วนแผลที่ท้ายทอยปกติจะต้องตัดไหมประมาณ 7-10 วัน (กรณีที่ผิวหนังด้านนอกใช้ไหมไม่ละลายเย็บแต่ส่วนใหญ่แพทย์จะไม่ใช้ไหมละลายเพราะจะให้แผลมีความแข็งแรงกว่า) ว่ากันแบบง่ายๆเลยคือ ถ้าผ่าตัดในช่วง วันจันทร์ถึงวันศุกร์ คุณสามารถกลับไปทำงานได้ในวันอังคารของสัปดาห์ถัดไป